รวมสูตรลับ พานาคอตต้า ฉบับเชพหมง แห่ง บ้านขนมหวาน ท่าพระ
- sge thai
- Mar 24, 2022
- 2 min read

ประวัติความเป็นมา
พานาคอตต้า ไม่ได้มีหลักฐานบันทึกประวัติความเป็นมาใน ตำราอาหารอิตาเลี่ยน ในช่วงก่อนคริสต์ทศวรรษที่ 1960 แต่ถูกอ้างว่าเป็นขนมสูตรดั้งเดิมของแคว้นพีดมอนต์ ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ถูกบันทึกในรายชื่อผลิตภัณฑ์อาหารดั้งเดิมของแคว้น มีเนื้อหาว่าสูตรดั้งเดิมนั้นต้องมีการใส่บรั่นดีลูกท้อ และจัดเสิร์ฟแบบไม่มีซอส หรือเครื่องอื่น ๆ ทั้งยังมีเรื่องเล่าถึงที่มาของ เบเกอรี่ ชิ้นนี้ว่า ถูกคิดค้นโดยหญิงสาวชาวฮังการีในแถบลันเกในต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1990
ประโยชน์ของ พานาคอตต้า
การรับประทาน พานาคอตต้า นอกจะได้รับความอร่อยแสนสดชื่นแล้ว ยังได้รับประโยชน์ที่มากมายจาก วัตถุดิบคุณภาพ ที่เลือกใช้ ยกตัวอย่าง เจลาตินที่อุดมไปด้วยโปรตีน และกรดอะมิโนหลายชนิดที่ดีต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องการซ่อมแซม และฟื้นฟูร่างกาย เพิ่มคอลลาเจนในข้อต่อ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง บำรุงสมอง ผิว และเส้นผม ทั้งยังเหมาะกับคนที่กำลังทาน อาหารควบคุมน้ำหนัก และน้ำตาล รวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากผลไม้นา ๆ ชนิดอีกด้วย
เอ่ยถึงพานาคอตต้า ของหวานสไตล์อิตาเลียนหลายคนคิดว่าทำยาก หรือถ้าซื้อกินก็ราคาแพงมาก ! ขอบอกว่าง่ายกว่าที่คิดเยอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูพานาคอตต้า ยกตัวอย่างเช่น พานาคอตต้ามะม่วง พานาคอตต้าสตรอว์เบอร์รี พานาคอตต้าช็อกโกแลต และเมนูพานาคอตต้าอื่น ๆ อีกเพียบ เลือกที่ชอบแล้วเข้าครัวกัน
พานาคอตต้า รสมะม่วง

อยากทานผลไม้ ที่เพิ่มรสหวานแบบธรรมชาติให้กับพานาคอตต้า แนะนำให้ทำ พานาคอตต้า รสมะม่วง รับรองว่า หวาน อร่อย ถูกปากคนบ้านเราแน่นอน โดยหากอยากทำในรูปแบบครีเอทสุดสร้างสรรค์ แนะนำให้วางแก้วในแนวเฉียง แล้วค่อยเทเนื้อครีมหรือเนื้อมะม่วงลงไป รับรองว่า เมื่อทำออกมาแล้ว พานาคอตต้าของคุณจะสวยมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ส่วนผสมซอสมะม่วง
เจลาตินผงหรือผงวุ้น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ก็ได้)
เกลือเล็กน้อย
มะม่วงปั่น 400 กรัม
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
น้ำเย็น 40 กรัม
ส่วนผสมพานาคอตต้า
เจลาติน 1 ช้อนชา
นมสด 200 กรัม
วิปปิ้งครีม 250 กรัม
น้ำตาลทราย 70 กรัม
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำซอสมะม่วง
เตรียมถ้วยผสม ใส่เจลาติน 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำเย็น 40 กรัม จากนั้น พักทิ้งไว้ 10 นาที
ถ้าเจลาตินเกาะตัว ให้นำไปอุ่นในไมโครเวฟ จนเป็นน้ำ เสร็จแล้ว ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่นเล็กน้อย คนให้เข้ากัน จากนั้น ตักมะม่วงปั่นมาบางส่วน ผสมให้เข้ากัน
นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสมรวมกับเนื้อมะม่วงปั่น คนให้เข้ากัน เติมรสเปรี้ยวด้วย น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วางแก้วในแนวเฉียง แล้วเทให้ได้ครึ่งหนึ่งของแก้ว นำไปแช่ในตู้เย็น ให้เช็ตตัว ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง
วิธีทำพานาคอตต้า
ใส่นมสด 200 กรัมลงในหม้อ ตามด้วยเจลาติน 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ 10 นาที เสร็จแล้ว นำไปต้มด้วยไฟอ่อน
ใส่น้ำตาลทราย 70 กรัม เกลือป่นเล็กน้อย คนให้น้ำตาลละลาย พอละลายหมดแล้ว ให้ปิดเตา ใส่วิปปิ้งครีม 250 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน เสร็จแล้ว พักทิ้งไว้ให้เย็น
เทใส่แก้วอีกครึ่งหนึ่ง ให้พอดีกับชั้นมะม่วงก่อนหน้านี้ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้เซ็ตตัวอีก 2 ชั่วโมง
หั่นมะม่วงเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้ตกแต่งด้านบน เป็นอันเสร็จ
หากใครกำลังหา เครื่องตีแป้ง หรือ เครื่องผสมอาหารอยู่ ขอแนะนำแบรนด์ Spring Green ที่หลายๆ คนได้ใช้งานแล้วพูดเป็นเสียงเดียวว่าคุ้มค่า ราคาไม่แพงเลย โดยเฉพาะ เครื่องผสมอาหารรุ่น Onyx ที่ราคาเพียงแค่ 3200฿ เท่านั้น เหมาะสำหรับมือใหม่ๆ เป็นอย่างมาก และมีรุ่น Almight ที่มีโถปั่น 10 ลิตร ราคาถูกสุดในตลาด เพียงแค่ 5000 เท่านั้น นอกจากนี้ยังมี เครื่องตีแป้งอีกมากมายตั้งแต่รุ่นครัวเรือนราคาเริ่มเพียง 990 บาท ไปจนถึงรุ่นอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกับโถขนาดใหญ่ ปรับระดับได้หลากหลาย แอบกระซิบว่าตอนนี้เค้ามีโปรมากมายเลยใน Shopee นะ ลองทักไปดูได้
พานาคอตต้าราสป์เบอร์รี่

พานาคอตต้าราสป์เบอร์รี่ ที่นำเอาราสป์เบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อีกหนึ่งอย่าง มาเป็นซอสเพิ่มความเปรี้ยวอมหวานให้กับพานาคอตต้า โดยวิธีการทำนั้น เนื้อครีมสามารถทำได้เหมือนกับสูตรอื่น ๆ ส่วนตัวซอสราสป์เบอร์รี่ จะนำไปเคี่ยวหรือนำไปใส่ในเครื่องปั่น ให้ทำซอสได้ง่ายขึ้นก็ได้
ส่วนผสมซอสราสป์เบอร์รี่
ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง 350 กรัม
น้ำตาลทราย 80 กรัม
น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมพานาคอตต้า
เจลาตินชนิดแผ่น 3-4 กรัม 3 แผ่น
วิปปิ้งครีม 720 มิลลิลิตร
นมสดชนิดจืด 240 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 120 กรัม
ฝักวานิลลา 1/2 ฝัก
ราสป์เบอร์รี่สำหรับจัดเสิร์ฟ
ใบมิ้นท์
วิธีทำซอสราสป์เบอร์รี่
ใส่ราสป์รี่ 350 กรัม ลงในเครื่องปั่น แล้วเทน้ำตาลทราย 80 กรัม น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้วปั่นให้ละเอียด
เสร็จแล้ว เทใส่ถ้วย โดยระหว่างเท ให้ใช้กระชอนกรองเอากากออกด้วย
วิธีทำพานาคอตต้า
ใส่น้ำเย็นลงในชาน นำเจลาติน 3 แผ่นมาแช่น้ำ
เตรียมหม้อต้ม ใส่วิปปิ้งครีม 720 มิลลิลิตร นมสด 240 มิลลิลิตร จากนั้น นำไปต้ม ใช้ไฟอ่อน
ใส่น้ำตาลทราย 120 กรัม ลงไป แล้วนำฝักวานิลา 1/2 ฝัก มากรีดผ่าครึ่ง ใช้มีดขูดเอาเมล็ดออกมา นำใส่ลงในหม้อพร้อมกับฝักวานิลาเลย
จากนั้น ใส่แผ่นเจลาตินที่แช่น้ำไว้ลงไป คนให้น้ำตาลและแผ่นเจลาตินละลายจนหมด พอร้อนได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ ยกหม้อลงได้
เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วใช้กระชอนกรองเอากากออก
เทใส่แก้วเล็กที่เตรียมไว้ 3/4 ถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น 2 – 3 ชั่วโมง
ตักซอสราสป์เบอร์รี่ที่เย็นแล้ว ไว้ด้านบนเนื้อครีมเป็นชั้นบาง ๆ ตกแต่งด้วยใบมิ้นท์ พร้อมผลราสป์เบอร์รี่อีกเล็กน้อย ไว้ด้านบนให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
พานาคอตต้าบลูเบอร์รี่

นอกจากสตรอเบอร์รี่ที่นิยมนำมาทำ พานาคอตต้า ก็มีบลูเบอร์รี่นี่และ ที่เป็นขาประจำอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งด้วยรสชาติที่เปรี้ยว ทำให้ตัดรสกับพุดดิ้งนมสดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าจะให้อร่อย แนะนำให้ทำซอสแบบมีเนื้อบลูเบอร์รี่อยู่ด้วย จะช่วยเพิ่มรสสัมผัสและความอร่อยให้มากขึ้น
ส่วนผสมซอสบลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่ 150 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมพานาคอตต้า
วิปปิ้งครีม 320 กรัม
นมสด 140 กรัม
น้ำตาลทราย 80 กรัม
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เจลาติน 2 แผ่น
น้ำเย็น
วิธีทำซอสบลูเบอร์รี่
ใส่บลูเบอร์รี่ 150 กรัม ลงในหม้อ แล้วเทน้ำตาลทราย 50 กรัม น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ ลงไป ตั้งไฟใช้ไฟกลาง ค่อย ๆ ต้มและเคี่ยว ใช้ช้อนคนเรื่อย ๆ และบี้ เพื่อให้เนื้อบลูเบอร์รี่นิ่ม ละลายเข้ากันกับน้ำตาล ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที
เสร็จแล้ว เทใส่ขวดโหล พักไว้ให้เย็น
วิธีทำพานาคอตต้า
ใส่น้ำเย็นลงในจาน นำเจลาติน 2 แผ่นมาแช่น้ำ
เตรียมหม้อต้ม ใส่วิปปิ้งครีม 320 กรัม นมสด 140 กรัม น้ำตาลทราย 80 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา ลงไป
นำไปต้ม เปิดไฟกลาง ใช้ไม้พายซิลิโคน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำตาลละลายจนหมด พอร้อนได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟ ยกหม้อลงได้
ใส่แผ่นเจลาติน 2 แผ่นที่แช่น้ำไว้ลงไป คนให้เจลาตินละลาย จากนั้น เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วใช้กระชอนกรองเอากากออก
เทใส่แก้วเล็กที่เตรียมไว้ 3/4 ถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น 2 – 3 ชั่วโมง
ตักซอสบลูเบอร์รี่ที่เย็นแล้ว ไว้ด้านบนเนื้อครีม ตกแต่งด้วยใบไม้สีเขียว ไว้ด้านบนให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
พานาคอตต้า รสช็อกโกแลต

ใครชอบทานช็อกโกแลต ห้ามพลาด กับ พานาคอตต้า สูตรช็อกโกแลต ที่ผสานรสชาติไว้ได้อย่างลงตัว โดยการนำเอาดาร์กช็อกโกแลตมาทำเป็นเนื้อครีม ซึ่งถ้าใครอยากตกแต่งให้สวยงาม สามารถใช้เครื่องตีแป้ง ตีวิปครีมให้ตั้งยอดอ่อน แล้วหยอดไว้เป็นชั้นบาง ๆ ด้านบน ตกแต่งด้วยผลไม้อย่าง สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ หรือช็อกโกแลต ก็ได้ตามชอบ ก็จะช่วยให้พานาคอตต้าแก้วนี้ มีรสชาติเพิ่มมากขึ้น
ส่วนผสม
ดาร์กช็อกโกแลต 80 กรัม
วิปปิ้งครีม 200 กรัม
วิปปิ้งครีม (สำหรับตกแต่ง)
นมสด 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 20 กรัม
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เจลาติน 4 กรัม
น้ำเย็น 1 ½ ช้อนโต๊ะ
สตรอว์เบอร์รี่
คุกกี้
ใบมิ้นท์
วิธีทำ
ใส่เจลาติน ลงในถ้วยขนาดเล็ก แล้วใส่น้ำเย็น 1 ½ ช้อนโต๊ะ ลงไป ให้เจลาตินอิ่มน้ำ
เตรียมหม้อต้ม ใส่วิปปิ้งครีม 200 กรัม น้ำตาลทราย 20 กรัม กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา ลงไป แล้วนำไปต้ม เปิดไฟกลาง ใช้ไม้พายซิลิโคน คนให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำตาลละลายจนหมด พอร้อนได้ที่ จนมีไอร้อนขึ้นมาแล้ว ให้ปิดไฟ ยกหม้อลงได้
ใส่เจลาติน ที่อิ่มน้ำแล้วลงไป ตามด้วยดาร์กช็อกโกแลต ที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ คนให้เจลาตินและดาร์กช็อกโกแลตละลาย จากนั้น เทนมสด 3 ช้อนโต๊ะลงไป คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
เทใส่แก้วเล็กที่เตรียมไว้ 3/4 ถ้วย จากนั้น นำไปแช่เย็น 2 – 3 ชั่วโมง
ใช้ตะกร้อมือหรือเครื่องตีแป้ง ตีวิปครีมให้พอตั้งยอดอ่อน จากนั้น เทลงในแก้วเป็นชั้นบาง ๆ ตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี่ ใบมิ้นท์ และคุกกี้ ไว้ด้านบนให้สวยงาม เป็นอันเสร็จ
Comments