top of page

วิธีทำขนมเบื้อง แป้งกรอบ ๆ ไส้หวาน อร่อยฟิน!

  • Writer: sge thai
    sge thai
  • Jul 19, 2021
  • 1 min read

“ขนมเบื้อง” เป็นอีกหนึ่งขนมไทย ที่มีมายาวนาน เป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะตามงานวัด และตลาดนัด อีกทั้งปัจจุบันมีวางขายตามศูนย์การค้าชั้นนำหลายแห่ง และภัตตาคารหรู ด้วยแป้งที่บางกรอบ รสชาติหวานหอม ประกอบกับโรยฝอยทอง และมะพร้าวขูด ผัดได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดานักชิม จนมีผู้ประกอบการหลายคนยึดเป็นอาชีพหลัก หรือเสริมไว้เลี้ยงตัวเอง และครอบครัวอีกด้วย วันนี้ SGE นำเสนอ วิธีทำขนมเบื้อง สูตรโบราณดั้งเดิม แป้งกรอบ ไส้เค็ม หวาน ทานฟิน ๆ อร่อยจนติดใจ มาฝากกัน . . .

สารบัญ

  • มารู้จักประวัติ ขนมเบื้อง กันก่อนดีไหม?

  • วิธีทำขนมเบื้อง

    • ส่วนผสม แป้งขนมเบื้อง

    • ส่วนผสม ครีมขนมเบื้อง

    • ส่วนผสม ไส้หวาน

    • วิธีทำ


  • แนะตัวช่วยทำขนมเบื้อง ที่จะทำให้คุณสะดวกยิ่งขึ้น

มารู้จักประวัติ ขนมเบื้อง กันก่อนดีไหม? ขนมเบื้องเป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีลักษณะเป็นแผ่นแป้ง ส่วนผสมหลัก คือ แป้งข้าวเจ้า ไข่แดง น้ำปูนใส และน้ำตาลปี๊บ มีไส้รสต่าง ๆ มีหลักฐานกล่าวถึงในคำให้การขุนหลวงหาวัดว่า “บ้านหม้อปั้นหม้อข้าวหม้อแกงใหญ่เล็ก และกระทะเตาขนมครกขนมเบื้อง” ขนมเบื้องมีหลายแบบ


  • ขนมเบื้องแบบไทยดั้งเดิม มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ แป้งข้าวเจ้าและกระทิ ปรุงรสด้วยเกลือเท่านั้น ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครทำแล้ว

  • ขนมเบื้องไทยแบบชาววัง โดยทั่วไปมี 2 หน้า คือ หน้ากุ้งและหน้าหวาน หน้ากุ้งใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตสับละเอียดผสมกับพริกไทยและผักชีตำพร้อมมันกุ้ง นำไปผัดใส่น้ำตาล น้ำปลาหรือเกลือให้หอม ปัจจุบันมักเป็นหน้ามะพร้าวใส่สีแดง ส่วนหน้าหวานมีส่วนผสมของฟักเชื่อม ฝอยทอง และพลับแห้งที่หั่นบาง ๆ ปัจจุบันมีแต่ฝอยทองกับครีม อย่างไรก็ตามในวังสวนสุนันทา มีหน้าหมูอีกอย่างหนึ่ง ใช้หมูสับคลุกคล้ากับกระเทียม พริกไทย รากผักชีโขลก ใส่พริกขี้หนู นำไปรวนพอสุก

  • ขนมเบื้องญวน เป็นขนมที่เข้ามาพร้อมกับเชลยชาวญวนในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งถูกกวาดต้อนมาระหว่างสงครามสยาม-เวียดนาม ขนมนี้ทำจากแป้งละลายกับไข่ให้ข้น ตักแป้งเทลงในกระทะที่ทาน้ำมันไว้ แผ่เป็นแผ่นกลม ใส่ไส้แล้วพับกลาง



วิธีทำขนมเบื้อง มาทำขนมเบื้องกรอบ ๆ ไส้ตูม ๆ ในวันหยุดกัน สูตรทำง่าย ไม่ต้องใช้แป้งถั่วทองคั่วแบบโบราณ แค่ใช้แป้งถั่วเขียวผสมกับแป้งข้าวเจ้า ละเลงในเตาเครปหรือกระทะเทฟลอนง่าย ๆ มาพร้อมวิธีทำครีมสด กินตอนอุ่น ๆ รับรองกรอบอร่อย ส่วนผสม แป้งขนมเบื้อง

  • แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม

  • แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซาหริ่ม 50 กรัม

  • น้ำเย็นจัด 150 กรัม

  • ไข่ไก่ 1 ฟอง

  • น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม

ส่วนผสม ครีมขนมเบื้อง

  • ไข่ขาว ¾ ถ้วย หรือประมาณ 2 ฟอง

  • น้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย

  • น้ำมะนาว

ส่วนผสม ไส้หวาน

  • ฝอยทอง

  • มะพร้าวขูด


วิธีทำ

  1. เริ่มต้นให้นำแป้งสองชนิด แป้งข้าวเจ้า และแป้งถั่วเขียว มาผสมกันแล้วเทน้ำเย็นตามลงไป ตีให้พอเข้ากัน

  2. จากนั้น ตอกไข่ใส่ลงไป ผสมตีให้เข้ากัน

  3. ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ ใช้ตะกร้อตีจนน้ำตาลละลายหมด หรือจะใช้มือช่วยบี้ ๆ ให้น้ำตาลละลายก็ได้

  4. พักแป้งไว้ก่อน แล้วมาทำครีมกัน ใช้ไข่ขาวตีกับน้ำตาลไอซิ่ง หรือจะใช้น้ำตาลธรรมดาก็ได้ แต่ขอให้เป็นน้ำตาลทรายละเอียด เพราะน้ำตาลจะได้ละลายเร็ว ๆ

  5. จากนั้น หยดน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ครีมตั้งยอดเร็วขึ้น ใครไม่ชอบหวานมาก สามารถลดปริมาณน้ำตาลลงมาได้

  6. ขั้นตอนต่อไป มาทำขนมเบื้องกัน เทส่วนผสมแป้งลงไป แล้วก็แผ่แป้งให้บางที่สุดเท่าที่จะบางได้

  7. พอแป้งเริ่มมีสีน้ำตาล ให้ละเลงครีมลงไป จะสังเกตเห็นว่าครีมเริ่มสุก และพองตัวขยายขึ้น ให้ใส่ไส้ลงไป จะเป็นไส้ฝอยทองกับมะพร้าวขูด ใช้เครื่องทำเครปมาทำขนมเบื้อง แต่สำหรับใครไม่มี สามารถใช้กระทะเทฟลอนได้เหมือนกัน

  8. เมื่อขนมสุก หอมได้ที่ ให้พับครึ่ง ตักวางบนตะแกรง พร้อมเสิร์ฟ

ขนมเบื้อง : ขนมคู่กับงานวัดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าเราจะไปงานวัดไหน ขนมเบื้องมีแทบจะทุกงานจริง ๆ ไส้ที่นิยมก็จะมีไส้ หวานและไส้เค็ม จำนวนแคลอรี่ของขนมเบื้อง อยู่ที่ 300แคลอรี่/ 5 ชิ้น จะเห็นได้ว่าขนมเบื้องนั้น ถือว่าเป็นขนมที่ครองใจผู้คนมาทุกยุคทุกสมัย อยากจะลองแซะขนมเบื้องกับเขาดูบ้าง อร่อย ๆ แบบนี้ อย่าพลาด วิธีทำขนมเบื้อง ก็แสนง่าย หอมแตะจมูก แป้งกรอบ ๆ ไส้เน้น ๆ ได้ลองแล้วคุณจะติดใจ แถมยังทำขายได้อีกด้วยนะ สำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องการต่อยอดธุรกิจ สร้างรายได้เสริม เรามีสินค้า ที่เป็นตัวช่วยในการทำอาหารของคุณ อย่าง เครื่องตีแป้ง เครื่องผสมอาหาร ให้เลือกสรรค์ รับรองสินค้าดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมบริการหลังการขายที่ประทับใจอย่างแน่นอน!! แนะตัวช่วยทำขนมเบื้อง ที่จะทำให้คุณสะดวกยิ่งขึ้น


 
 
 

Comments


  • Facebook
  • Twitter
  • Spotify
  • Apple Music

© 2023 by The Halftimers. Proudly created with Wix.com

The Halftimers Newsletter

Thanks for submitting!

bottom of page