top of page

ผักเคล ทำไมถึงเป็นสุดยอดผัก ณ ตอนนี้

  • Writer: sge thai
    sge thai
  • Dec 21, 2021
  • 1 min read


ประเทศไทยในปัจจุบัน ขนานนามผักเคล(Kale) ว่าเป็นราชีนีแห่งผักใบเขียว(The queen of greens) เนื่องด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูงจนหาที่เปรียบ อย่างไรก็ตามในต่างประเทศที่รับประทานผักเคลกันมาอย่างยาวนานกลับไม่ได้มองว่าเคลเป็นราชินี แต่ฉายาของผักเคลในต่างแดน คือ ราชาแห่งผักใบเขียว(The king of greens) จนกระทั่งมีประโยคที่ว่า Kale is King ที่แปลเป็นไทยได้ว่าเคลนี่แหละคือราชา ดังนั้น ในบทความนี้ผมจึงอยากจะนำ 10 ข้อเท็จจริง ที่ทำให้ Kale เป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดในโลกจนถือได้ว่า ผักเคล เป็น Superfood ชนิดหนึ่งมาตีแผ่ โดยข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน


รู้จักกับผักเคล

ลักษณะของผักเคลจะมีใบที่หยิกสีเขียวเข้มหลายคนเรียก ผักคะน้าใบหยิก ด้วยรสชาติที่คล้ายคลึงกับผักคะน้าแต่ก็ไม่แปลกใจเลยเนื่องจากผักเคลเป็นพืชผักที่อยู่สายพันธุ์เดียวกับผักคะน้า โดยผักเคลเป็นผักที่อยู่ในตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลีเช่นเดียวกับบล็อคโคลี่ จะเห็นได้ว่าผักที่อยู่ในตระกูลนี้จะมีคุณค่าทางอาหารจะไม่แตกต่างกันมาก


10 ประโยชน์จาก "เคล" ที่คนรักสุขภาพต้องรู้



อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ผักเคล เป็นซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย หากรับประทานเป็นประจำจึงมีส่วนช่วยให้สามารถป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้


1. เคลมีไฟเบอร์สูง ช่วยลดความเสี่ยง "โรคเบาหวาน"


สมาคมโรคเบาหวานอเมริกัน แนะนำให้บริโภคอาหารในกลุ่มที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กากใยไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระสูง เนื่องจากมีหลักฐานทางการแพทย์พบว่าอาหารในกลุ่มนี้ช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้


โดยเฉพาะผักที่มีไฟเบอร์สูงก็ยิ่งมีประโยชน์ในแง่ของการป้องกันโรคเบาหวานมากขึ้น มีการศึกษาวิจัยในปี 2018 ชิ้นหนึ่งระบุว่าผู้ที่บริโภคใยอาหารในปริมาณสูงจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 น้อยกว่าคนที่บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์น้อยหรือไม่บริโภคเลย นอกจากนี้การบริโภคผักไฟเบอร์สูงยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย


2. ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันโรคความดันสูง


จากการศึกษาขององค์กร Cochrane เมื่อปี 2559 พบว่าการบริโภคอาหารไฟเบอร์สูงส่งผลให้ระดับไขมันในเลือดลดลง และทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ ผู้ที่บริโภคกากใยไฟเบอร์มากขึ้นมีแนวโน้มที่จะมีระดับคอเลสเตอรอลชนิด “ไม่ดี” (LDL) ลดลง


(Cochrane เป็นองค์กรอิสระที่ไม่ได้แสวงหากำไร มีหน้าที่สร้างฐานความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลการรักษาผู้ป่วยจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งผลิตและเผยแพร่งานวิจัยเชิงสังเคราะห์ Healthcare intervention และสนับสนุนการค้นคว้าทางการแพทย์ด้าน Clinical trials)


3. เคลมีลูทีนและซีแซนทีนสูง ช่วยปกป้องดวงตา


ผักเคลมีสารสำคัญอย่างลูทีนและซีแซนทีนในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่พบมากในผักเคลหรือคะน้าใบหยัก เป็นสารสำคัญทรงพลังที่ช่วยปกป้องดวงตา ไม่ให้สายตาแย่ลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารลูทีนและซีแซนทีนเพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมและโรคต้อกระจกได้


สินค้าแนะนำ: ตู้แช่ผัก ตู้แช่ผลไม้จาก SGE ที่ทำความเย็นได้อย่างสม่ำเสมอ กระจายความเย็นช่วยให้ผักเคลสดนาน

และตู้แช่ผักของเรายังควบคุมอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0- 10 องศา (โดยอุณหภูมิในการเก็บรักษาผักที่ดีควรอยู่ที่ประมาณ 10 องศา) โดยตู้แช่ผักของเราทำความเย็นด้วยระบบ Fan cool ไม่มีน้ำแข็งเกาะ เย็นเร็ว ประหยัดไฟ ราคาไม่แพงแน่นอน


4. เคลมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ป้องกันมะเร็ง


ผักเคลมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียม ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง มีผลการศึกษาวิจัยหลายชิ้นพบว่าคนที่รับประทานผักที่มีวิตามินซีและเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่างๆ เพราะสารเหล่านี้จะช่วยป้องกันความผิดปกติและการอักเสบต่างๆ ของเซลล์ในร่างกายได้


5. เคลมีคลอโรฟิลล์สูง ช่วยดักจับสารก่อมะเร็ง


ผักเคลมีคลอโรฟิลล์สูง ซึ่งสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึม "เอมีนเฮเทอโรไซคลิก" หรือสารก่อมะเร็งจากอาหารประเภทปิ้งย่างได้ จริงๆ แล้วร่างกายมนุษย์ไม่สามารถดูดซึมคลอโรฟิลล์ได้มากนัก แต่คลอโรฟิลล์สามารถดักจับกับสารก่อมะเร็งเหล่านี้และป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมเข้าไปได้ ด้วยวิธีนี้ผักเคลจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลงได้


6. ผักเคลมีโพแทสเซียม ช่วยส่งเสริมสุขภาพหัวใจ


สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association : AHA) มีคำแนะนำผู้คนให้บริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมมากขึ้น เนื่องจากโพแทสเซียมสามารถลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง ของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยผักเคลก็เป็นผักอีกชนิดที่มีสารโพแทสเซียมอยู่ค่อนข้างมากเช่นกัน



7. เคลอาจช่วยลดน้ำหนักได้ดีขึ้น


ผักเคลมีคุณสมบัติหลายประการที่เป็นมิตรต่อการ "ลดน้ำหนัก" นั่นคือ แคลอรี่ต่ำมาก มีไฟเบอร์ และมีน้ำปริมาณมาก แม้จะกินเยอะชามใหญ่ก็ไม่ทำให้อ้วนแถมยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน การรับประทานผักที่มีพลังงานต่ำแบบนี้จึงช่วยลดน้ำหนักได้


8. มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวหนังและเส้นผม


ผักเคลอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนที่ดีซึ่งเป็นแคโรทีนอยด์ที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นวิตามินเอตามที่ต้องการ โดยเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการบำรุงรักษาเนื้อเยื่อของร่างกายทั้งหมด รวมถึงผิวหนังและเส้นผม


9. เคลเป็นแหล่งแร่ธาตุที่ดี


ผักเคลเป็นแหล่งแร่ธาตุที่ดีที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเพียงพอในแต่ละวัน โดยแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายพบว่ามีอยู่ในผักเคลเกือบครบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น "แคลเซียม" สำคัญต่อสุขภาพกระดูกและฟัน, มีแมกนีเซียมซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจได้ มีสารออกซาเลตต่ำ ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุได้ดี (ผักบางชนิดมีออกซาเลตสูง ซึ่งจะทำให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุไม่ได้)


10. ไม่ควรกิน "เคล" มากเกินไป


แม้เคลจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็ไม่ควรรับประทานจนเกินความพอดี เพราะหากบริโภคมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ หากคุณมีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำหรือที่เรียกว่าไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถบริโภคผักเคลได้มากน้อยแค่ไหนจึงจะพอดีและไม่เป็นผลเสียต่อร่างกาย


Cr. bangkokbiznews

Bình luận


  • Facebook
  • Twitter
  • Spotify
  • Apple Music

© 2023 by The Halftimers. Proudly created with Wix.com

The Halftimers Newsletter

Thanks for submitting!

bottom of page